แม้ว่าในวิชาดาราศาสตร์กล่าวถึงดวงอาทิตย์ว่าเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์
ตัวการก่อให้เกิดคลื่นพลังทั้งมวลก็ตาม
แต่วิชาโหราศาสตร์ก็เชื่อว่า
โลกของเราเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวในระบบสุริยะจักรวาลซึ่งเป็นแหล่งรวมของกระแสธาตุสำคัญ
อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ในขณะที่ดาวเคราะห์อื่น ๆ
มีอยู่ไม่ครบถ้วน
ความสัมพันธ์ระหว่างโลกกับจักรวาลได้ก่อให้เกิด
มวลชีวิต วัตถุ
ปรากฏการณ์ของธรรมชาติดังที่รู้เห็นกันอยู่
ความเป็นมาพัฒนาการของมนุษยชาติตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน
ยังคงเป็นความลับที่ยังไม่สารารถอธิบายตามหลักวิชาการได้แน่ชัด
ด้วยเหตุ
พิธีพุทธไภรพ
หรือที่หนังสือประวัติศาสตร์อินโดนิเชีย เรียกว่า
ปาลาปา
อันเป็นพิธีกรรมโบราณของราชสำนักศรีวิชัยนั้น
โดยแท้จริงแล้วก็คือ
การนำความรอบรู้ในวิชาโหราศาสตร์ระบบจันทรคติ
ซึ่งหยั่งรู้ถึงความหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงของวัฏจักร
มีรากฐานสำคัญมาจากความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ระหว่าง
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ โลก ดาวเคราะห์ และมนุษย์
นำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เร้นลับซึ่งมีอยู่เฉพาะในโลก
เรียกว่า วิญญาณธาตุ หรือ ดาวพระเกตุ
สามารถกดดันบันดาลให้เกิดความมหัศจรรย์ได้นานาประการ
ศาสนาพุทธนิกายมหายานเชื่อว่า
จิตตานุภาพของมนุษย์ทรงพลังยิ่งใหญ่เหนือสิ่งทั้งปวงมีภูมิปัญญาสามารถในการสร้างสรรค์โลกให้เกิดความสมบูรณ์พูนสุข
ขจัดความทุกข์ยากเดือดร้อนได้
หากบุคคลนั้นบำเพ็ญบารมีธรรมจนบรรลุความเป็น
พระโพธิสัตว์
ย่อมปรุงแต่งแปลงสภาพสรรพสิ่งเหมือนดังปรากฏการณ์ธรรมชาติ
คติธรรมการสร้างรูป พระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม
ในศาสนาพราหมณ์ก็ดี รูปพระโพธิสัตว์ พระพุทธรูป
ในศาสนาพุทธก็ดี ล้วนกระทำขึ้นตามวัน
เวลาที่ถือว่าเป็นมงคลสูงสุด
ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ทั้งสิ้น
โดยมุ่งหมายสืบสร้างวาสาบารมี
ประคับประคองค้ำจุนดวงชะตาให้เกิดความมั่นคงมั่งคั่ง
สมัยโบราณพระมหากษัตริย์ เสนาบดีชั้นสูง
ผู้มีอำนาจวาสนาเท่านั้น
ที่มีโอกาสได้ประกอบพิธีกรรมดังกล่าว
คนธรรมดาทั่วไปอาจทำได้เพียงทำบุญให้ทาน
ค้ำต้นโพธิ์ต้นไทร สะเดาะเคราะห์ด้วยวิธีอย่างอื่น